เมนู

อรรถกถานันทิยเถรคาถา


คาถาของท่านพระนันทิยเถระเริ่มต้นว่า โอภาสชาตํ. เรื่องราวของ
ท่านเป็นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ เมื่อ
พระศาสดาเสด็จปรินิพพานแล้ว ท่านให้เขาทำไพรที ด้วยไม้แก่นจันทน์ไว้
ในพระเจดีย์ ยังการบูชาสักการะอัน โอฬาร ให้เป็นไปแล้ว จำเดิมแต่นั้น ท่าน
เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอัธยาศัย สั่งสมบุญกรรมอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน
ไว้ในภพนั้น ๆ เป็นอันมาก ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย แล้ว
บังเกิดในตระกูลแห่งศากยราช ในกรุงกบิลพัสดุ์ ในพุทธุปบาทกาลนี้.
มารดาบิดาของท่าน เกิดความชื่นชมยินดี เพราะฉะนั้น จึงให้ชื่อว่า
นันทิยะ. นันทิยกุมาร เจริญวัยแล้ว เมื่อพวกเจ้าศากยะทั้งหลายมีเจ้าอนุรุทธะ
เป็นต้น บวชในสำนักของพระบรมศาสนา แม้ตัวท่านเองก็บรรพชาแล้ว
เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต ต่อกาลไม่นานนัก เพราะเป็นผู้มีอธิการ
อันกระทำไว้แล้ว. สมด้วยคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า
พระชินสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ปทุ-
มุตตระ ผู้เป็นเชษฐบุรุษของโลก ผู้ประเสริฐกว่านระ
รุ่งเรืองดุจกองอัคคี ปรินิพพานแล้ว เมื่อพระมหาวีระ
เจ้านิพพานแล้ว ได้มีสถูปอันกว้างใหญ่ ชนทั้งหลาย
เอาสิ่งของที่จะพึงถวายเข้าไปตั้งไว้ที่สถูป ในห้อง
พระธาตุอันประเสริฐสุดในกาลนั้น เรามีจิตเลื่อมใส
มีใจโสมนัสได้ทำไพรที่ไม้จันทน์อันหนึ่ง อันสมบูรณ์

แก่สถูป และถวายธูปและของหอม ในภพที่เราเกิด
คือ ในอัตภาพเทวดาหรือมนุษย์ เราไม่เห็นความที่
เราเป็นผู้ต่ำทรามเลย นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม. ในกัปที่
1,500 แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 8 พระ-
องค์ ทรงพระนามว่า สมัตตะ ทุกพระองค์มีพลมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 อภิญญา 6
เราทำให้แจ้งชัดแล้ว เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯ ล ฯ
คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.

ก็เมื่อพระเถระนี้ บรรลุพระอรหัตแล้ว อยู่ในปาจีนวังสมิคทายวัน
ร่วมกับ พระเถระทั้งหลาย มีพระเถระชื่อว่า อนุรุทธะเป็นต้น. วันหนึ่ง มารผู้มี
บาป มีความประสงค์จะทำให้ท่านกลัว จึงสำแดงรูปที่น่ากลัวแก่ท่าน. พระเถระ
รู้ทันว่า เป็นมารนั่นเอง เมื่อแสดงว่า ดูก่อนมารผู้มีบาป พระอริยบุคคล
เหล่าใด ล่วงพ้นบ่วงแห่งมารได้แล้ว กิริยาของท่าน จักทำอะไรพระอริยบุคคล
เหล่านั้นได้ ตัวท่านนั่นแหละ จักถึงความคับแค้น ความฉิบหาย มีการกระทำ
นั้นเป็นเหตุ จึงได้ภาษิตคาถาว่า
จิตของภิกษุใด ได้บรรลุผลญาณ สว่างรุ่งเรือง
อยู่เป็นนิตย์ ท่านมาเบียดเบียนภิกษุนั้นเข้า จักได้รับ
ทุกข์มหันต์ นะมาร ดังนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โอภาสชาตํ ความว่า ชื่อว่ามีแสงสว่าง
เกิดแล้ว ด้วยโอภาสคือญาณ เพราะได้บรรลุมรรคญาณอันเลิศแล้ว. อธิบายว่า
ชื่อว่าผ่องใสเหลือเกิน เพราะความมืดคือกิเลส ถูกญาณอันเลิศนั้น กำจัด
หมดสิ้นแล้วโดยไม่เหลือ.

บทว่า ผลคฺคํ ความว่า ถึง คือเข้าถึงแล้วซึ่งผล อธิบายว่า ประกอบ
ด้วยอัครผลญาณ.
พระเถระเรียกจิตของพระขีณาสพว่า จิต โดยความเป็นสภาพสามัญ
ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า อภิณฺหโส. ก็จิตนั้นของพระขีณาสพทั้งหลาย
ไหวอยู่เป็นนิตย์ เพราะน้อมไปในนิโรธ จึงควรที่จะกล่าวว่า ประกอบแล้ว
ด้วยผล เพราะเข้าถึงอรหัตผลสมาบัติ.
บทว่า ตถารูปํ ความว่า มีอย่างนั้นเป็นรูป อธิบายว่า ได้แก่
พระอรหันต์ทั้งหลาย.
บทว่า อาสชฺช ได้แก่ ข่มขู่ คุกคาม.
พระเถระ เรียกมารว่า กัณหะ อธิบายว่า มารนั้น ท่านเรียกว่า
กัณหะ เพราะมีกรรมหยาบช้าและเพราะมีชาติเลวทราม.
บทว่า ทุกฺขํ นิคจฺฉติ ความว่า ท่านจักเข้าถึง คือ ประสบทุกข์
อันทำกายให้ลำบาก ไร้ประโยชน์ โดยการเข้าไปสู่ท้อง (มารดา) เป็นต้น
ในชาตินี้ และอบายทุกข์อันก่อความเดือดร้อน. ในภพหน้า. มารฟังดังนั้นแล้ว
รู้ว่า พระสมณะรู้จักเรา จึงหายไปที่นั้นเอง ฉะนี้แล.
จบอรรถกถานันทิยเถรคาถา

6. อภัยเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระอภัยเถระ


[163] ได้ยินว่า พระอภัยเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
เราได้ฟังพระวาจาอันเป็นสุภาษิต ของพระ-
พุทธเจ้า ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ แห่งพระอาทิตย์ จึงได้รู้แจ้ง
แทงตลอดซึ่งธรรมอันละเอียด เหมือนบุคคลยิงปลาย
ขนทราย ด้วยลูกศร ฉะนั้น.

อรรถกถาอภัยเถรคาถา


คาถาของท่านพระอภัยเถระเริ่มต้นว่า สุตฺวา สุภาสิตํ วาจํ.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ท่านบวชในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า
ปทุมุตตระ เป็นพระธรรมกถึก ในเวลาจะแสดงธรรม กล่าวชมพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ด้วยคาถา 4 คาถาก่อน แล้วจึงแสดงธรรมในภายหลัง. ด้วยกำลัง
แห่งบุญกรรมนั้น ขึ้นชื่อว่า การปฏิสนธิในอบาย ไม่เคยมีแก่ท่านตลอดแสน
แห่งกัป. สมดังที่ท่านกล่าวคำเป็นคาถาไว้ว่า
พระอภัยเถระ ผู้มีจิตเลื่อมใสแล้ว กล่าว
สรรเสริญพระชินเจ้า ทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ